ตู้คอนเทนเนอร์มือสองมีกี่แบบ เลือกอย่างไรให้ดีที่สุด

ตู้คอนเทนเนอร์มือสอง แต่คุณภาพไม่เป็นสองรองใคร!

ตู้คอนเทนเนอร์มือสองเลือกอย่างไรให้ดีที่สุด

 

ตู้คอนเทนเนอร์มือสองนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งแล้ว ยังเป็นการช่วยโลกอีกทางหนึ่ง เพราะเป็นการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่แทนการทิ้งขว้าง ซึ่งช่วยลดขยะและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ แต่การเลือกซื้อตู้คอนเทนเนอร์มือสองก็ต้องทำความรู้จักประเภทของตู้คอนเทนเนอร์มือสองก่อนว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้ผู้ประกอบการเลือกซื้อตู้คอนเทนเนอร์ได้ตรงกับความต้องการและใช้ตู้คอนเทนเนอร์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


5 ประเภทตู้คอนเทนเนอร์มือสองยอดนิยม

  1. ตู้คอนเทนเนอร์มือสองขนาด 20 ฟุต คือ ตู้คอนเทนเนอร์ที่มีความยาวประมาณ 6 เมตร ความกว้าง 2.4 เมตร และความสูง 2.6 เมตร เป็นขนาดตู้คอนเทนเนอร์มือสองมาตรฐานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้า โดยสามารถบรรทุกน้ำหนักได้สูงสุดถึงประมาณ 21.7 ตัน เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ด้วยขนาดที่กะทัดรัดของตู้คอนเทนเนอร์มือสองนี้ ทำให้สามารถขนส่งได้ทั้งทางเรือ รถบรรทุก หรือรถไฟ นอกจากนี้ ยังมีความคล่องตัวและสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บ ตู้คอนเทนเนอร์มือสองจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักหรือมีจำนวนสินค้าไม่มาก

  2. ตู้คอนเทนเนอร์มือสองขนาด 40 ฟุต คือ ตู้คอนเทนเนอร์ที่มีความยาวประมาณ 12 เมตร ความกว้าง 2.4 เมตร และความสูง 2.6 เมตร ซึ่งตู้คอนเทนเนอร์มือสองขนาด 40 ฟุตนี้ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในวงการโลจิสติกส์และการขนส่งระหว่างประเทศ ด้วยขนาดที่กว้างขวางและสามารถรองรับสินค้าปริมาณมากได้ รับน้ำหนักสูงถึง 26.5 ตัน ส่งผลให้ตู้คอนเทนเนอร์มือสองรุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักและปริมาณมาก ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ เครื่องจักรกลอุตสาหกรรม หรือสินค้าที่มีจำนวนมาก ซึ่งช่วยลดต้นทุนการขนส่งและสามารถปกป้องสินค้าจากสภาวะแวดล้อมภายนอกได้เป็นอย่างดี

  3. ตู้คอนเทนเนอร์มือสองขนาด 45 ฟุต คือ ตู้คอนเทนเนอร์ที่มีความยาวประมาณ 13.7 เมตร ความกว้าง 2.4 เมตร และความสูง 2.9 เมตร เป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่อาจจะไม่ค่อยพบเห็นในการขนส่ง เนื่องจากเป็นขนาดที่มีการออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับธุรกิจที่ต้องการขนส่งสินค้าจำนวนมากหรือสินค้าที่ต้องการพื้นที่เก็บมาก เนื่องจากความใหญ่หรือความยาวของสินค้า เช่น สินค้าที่ขนส่งระหว่างประเทศ เครื่องจักรในอุตสาหกรรม และสินค้าพิเศษที่มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่มากกว่าปกติ ซึ่งตู้คอนเทนเนอร์มือสองขนาด 45 ฟุต ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง แต่ยังคงขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้สินค้าเสียหาย ​​​​​​​​​​​​​​​​

  4. ตู้คอนเทนเนอร์มือสองแบบแห้ง (Dry Container) เป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งสินค้าทั่วไปที่ไม่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิเป็นพิเศษ มีลักษณะปิดมิดชิด มีประตูที่แข็งแรงและกันความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าแห้ง เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร และสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของตู้คอนเทนเนอร์แบบแห้ง คือ ทนทานต่อสภาพอากาศ ป้องกันความชื้นได้ดี สามารถดัดแปลงใช้งานได้หลากหลาย มีราคาที่เหมาะสมกับการใช้งาน ตู้คอนเทนเนอร์มือสองประเภทนี้จึงได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภค บริโภค

  5. ตู้คอนเทนเนอร์เย็นมือสอง เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในวงการขนส่งและจัดเก็บสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ โดยเป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่ยังคงสภาพดีและสามารถทำหน้าที่ในการเก็บรักษาสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุตสาหกรรมที่นิยมใช้ตู้คอนเทนเนอร์เย็นมือสองมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหาร การเกษตร การขนส่งสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ หรือโรงงานแปรรูปอาหาร ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่สามารถเก็บรักษาคุณภาพสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อตู้คอนเทนเนอร์เย็นมือสองต้องตรวจสอบสภาพตู้ ระบบทำความเย็น ประวัติการใช้งาน และการบำรุงรักษาอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพและสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

เลือกซื้อตู้คอนเทนเนอร์มือสอง อย่างไรให้ได้ตู้คอนเทนเนอร์ที่มีคุณภาพ

ตู้คอนเทนเนอร์มือสองมีให้เลือกหลายประเภท โดยแต่ละประเภทเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกซื้อตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่เหมาะสมไม่เพียงแค่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการ แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย โดยปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา ได้แก่ วัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น ใช้ในการเก็บสินค้า หรือขนส่งสินค้าภายในหรือต่างประเทศ รวมถึงต้องการขนส่งผ่านทางไหน เช่น ทางเรือ รถไฟ รถบรรทุก ซึ่งการขนส่งแต่ละแบบส่งผลต่อการเลือกซื้อตู้คอนเทนเนอร์มือสอง นอกจากนี้ งบประมาณที่ตั้งไว้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ เพราะตู้คอนเทนเนอร์มือสองมีราคาที่หลากหลายขึ้นอยู่กับสภาพ ขนาด และรุ่น อีกทั้งยังควรพิจารณาความต้องการเฉพาะ เช่น ความทนทานต่อสภาพอากาศ ความสะดวกในการเคลื่อนย้าย หรือฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ การศึกษาและเปรียบเทียบตัวเลือกที่มีอยู่ในตลาดอย่างรอบคอบ เช่น การตรวจสอบคุณภาพ ความแข็งแรง และการรับประกัน จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่มีคุณภาพ คุ้มค่า และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

หากคุณกำลังมองหาตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม พร้อมการบริการที่ครบวงจร สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที 168 คอนเทนเนอร์ เพราะเราเป็นผู้นำในด้านการขายและให้เช่าตู้คอนเทนเนอร์คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยบริการที่หลากหลายและครอบคลุมทุกประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ ไม่ว่าจะเป็นตู้คอนเทนเนอร์ธรรมดา ตู้คอนเทนเนอร์เย็น ตู้คอนเทนเนอร์มือสอง หรือแม้แต่การให้เช่าตู้คอนเทนเนอร์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึง เรายังมีบริการพิเศษในการซ่อมแซมและเปลี่ยนตู้คอนเทนเนอร์ให้ทันทีในกรณีที่เกิดความเสียหาย เพื่อให้ลูกค้าของเราไม่ต้องหยุดชะงักจากการใช้งาน พร้อมรับการรับประกันถึง 6 เดือนเต็ม

 

 

สนใจติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อตู้คอนเทนเนอร์มือสองได้ที่ 
ที่อยู่: บางนาตราด กม.8 ซอยรามคำแหง 2 ถนนรามคำแหง 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ

โทร : 099-624-4539 (ถิรวรรธน์) Line : thirawat_168  E-mail : t168_container@hotmail.com

    

 

 

Visitors: 71,994