การส่งสินค้าแต่ละประเภทควรเลือกใช้ขนาดตู้คอนเทนเนอร์อย่างไรให้เหมาะสม
เทคนิคการเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง
ในการขนส่งสินค้าทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์ให้มีความเหมาะสมกับน้ำหนัก ขนาด รูปทรง รวมถึงความต้องการในการจัดเก็บหรือการควบคุมอุณหภูมิที่มีความเฉพาะตัวของสินค้าแต่ละประเภทที่ต้องการขนส่ง ไม่เพียงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง แต่ยังส่งผลต่อการช่วยเพิ่มความปลอดภัยและการช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าในระหว่างการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะฉะนั้นแล้วในบทความนี้ T168 คอนเทนเนอร์ จึงอยากจะขอพาเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการทุกคนมาร่วมเจาะลึกเทคนิคดี ๆ ในการเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์ให้มีความเหมาะสมกับประเภทของสินค้า เพื่อช่วยให้ทุกการขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพและมีความคุ้มค่าอย่างสูงสุด
การเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์สำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักมากแต่ขนาดเล็ก
ในการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากแต่มีขนาดเล็ก (Heavyweight, Small Size Goods) อาทิ โลหะ แร่ ซีเมนต์ วัสดุก่อสร้างที่มีน้ำหนักมาก เครื่องมือขนาดใหญ่ หรือเครื่องจักรขนาดเล็ก ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต หรือ 1 TEU ในรูปแบบมาตรฐาน (Dry Container) จะเป็นขนาดตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้ขนส่งสินค้าประเภทดังกล่าวมากที่สุด เนื่องจากตู้ขนาด 20 ฟุต ไม่เพียงมีพื้นที่ที่เพียงพอสำหรับการจัดเก็บและขนย้ายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การจัดวางสินค้าที่มีน้ำหนักมากลงในตู้คอนเทนเนอร์ที่มีขนาดเล็กยังช่วยทำให้การจัดการเกี่ยวกับการโหลดสินค้ามีความง่าย สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
การเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์สำหรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่แต่มีน้ำหนักเบา
สินค้าที่มีขนาดใหญ่แต่มีน้ำหนักเบา (Bulky, Lightweight Goods) เป็นอีกหนึ่งประเภทของสินค้าที่พบได้บ่อยครั้งในอุตสาหกรรมสินค้าทั่วไป อาทิ เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ ชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้มักจะต้องการพื้นที่สำหรับการบรรจุที่มากขึ้นแม้ว่าน้ำหนักของสินค้าจะไม่มากก็ตาม ดังนั้นขนาดตู้คอนเทนเนอร์ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดสำหรับการขนส่งสินค้าเหล่านี้จึงเป็นตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต หรือ 1 FFE เนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับการจัดเรียงสินค้าขนาดใหญ่ จึงทำให้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าหลายรอบ รวมถึงสามารถช่วยประหยัดเวลาและช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งต่อหนึ่งหน่วยสินค้าได้เป็นอย่างดี
การเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์สำหรับสินค้าที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิ
สำหรับสินค้าที่มีความต้องการการควบคุมอุณหภูมิเป็นพิเศษ (Temperature-sensitive Goods) อาทิ อาหารสด อาหารแช่แข็ง ผลไม้ ผัก หรือยาและเวชภัณฑ์ การเลือกใช้ตู้คอนเทนเนอร์แบบตู้เย็น (Refrigerated Container) ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความต้องการของสินค้าในระหว่างการขนส่ง เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าที่ไวต่ออุณหภูมิได้เป็นอย่างดี โดยสำหรับการเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์แบบเย็นนั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่ง หากต้องการส่งออกผลไม้สดในปริมาณมากจะนิยมเลือกใช้ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต เพื่อเพิ่มความจุในการขนส่งสินค้า แต่ถ้าหากสินค้ามีจำนวนน้อยจะนิยมเลือกใช้ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ง่ายขึ้นและคงที่กว่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้า
การเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์สำหรับสินค้าที่มีรูปทรงพิเศษหรือสินค้าที่ไม่สามารถโหลดในตู้ปิดได้
สินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีรูปทรงที่ไม่สามารถบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์แบบมาตรฐาน (Oversized Goods) มักจะเป็นสินค้าที่มีความเฉพาะเจาะจงในการขนส่งและการใช้งาน อาทิ เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ รถยนต์ อุปกรณ์ก่อสร้าง หรือวัตถุดิบที่มีความยาวเกินกว่าขนาดมาตรฐาน เป็นต้น ส่งผลให้การเลือกตู้คอนเทนเนอร์แบบเปิดด้านบน (Open Top Container) หรือ ตู้คอนเทนเนอร์แบบพื้นเรียบ (Flat Rack Container) จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับการขนส่งสินค้าที่มีลักษณะพิเศษเหล่านี้ โดยการเลือกใช้ตู้แบบเปิดด้านบนจะช่วยให้สามารถจัดวางสินค้าขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น ร่วมกับการช่วยลดความเสี่ยงที่สินค้าจะเกิดความเสียหายจากการบรรจุในตู้แบบปิด ในขณะเดียวกัน การเลือกตู้แบบพื้นเรียบจะเหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีความยาวเกินกว่าขนาดตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน รวมถึงสินค้าที่มีรูปทรงที่ซับซ้อนหรือไม่สามารถวางซ้อนกันในลักษณะที่ปลอดภัยได้
การเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์สำหรับสินค้าที่เป็นของเหลวหรือก๊าซ
สำหรับการขนส่งสินค้าที่เป็นของเหลวหรือก๊าซ (Liquid or Gas Goods) อาทิ สารเคมี น้ำมัน หรือเครื่องดื่ม จะนิยมเลือกใช้ตู้คอนเทนเนอร์แบบถัง (Tank Container) ที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาสำหรับการขนส่งของเหลวและก๊าซโดยเฉพาะ เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวไม่เพียงมีขนาดตู้คอนเทนเนอร์ให้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการเช่นเดียวกันกับตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมาตรฐาน ซึ่งให้พื้นที่เพียงพอสำหรับการขนส่งของเหลวในปริมาณมาก แต่ตู้คอนเทนเนอร์แบบถังยังถูกออกแบบมาพร้อมด้วยระบบควบคุมการปิดผนึกที่แน่นหนาเพื่อป้องกันการรั่วไหลและความเสียหายระหว่างการขนส่ง รวมถึงมีระบบระบายความดันและความปลอดภัยเพื่อการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและแรงดัน ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
การเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการขนส่งสินค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ขนาดใหญ่ หรือสินค้าที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิ เพื่อประโยชน์ในการช่วยทำให้การขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดต้นทุน และลดความเสี่ยงต่อการเสียหายของสินค้าได้มากที่สุด โดย T168 คอนเทนเนอร์ พร้อมให้บริการเช่าตู้เย็นคอนเทนเนอร์ ขายตู้เย็นคอนเทนเนอร์ ตู้คอนเทนเนอร์เก็บความเย็น ห้องเย็นคอนเทนเนอร์ เช่าตู้คอนเทนเนอร์ เย็น เช่าห้องเย็นคอนเทนเนอร์ ตู้คอนเทนเนอร์เก็บความเย็น ยี่ห้อ CARRIER หลากหลายขนาด เพื่อการช่วยตอบสนองต่อทุกความต้องการในการขนส่งสินค้าและการรักษาคุณภาพของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดก่อนการจัดส่งถึงมือลูกค้าและผู้บริโภค
สนใจติดต่อสอบถามเกี่ยวกับขนาดตู้คอนเทนเนอร์
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที168 คอนเทนเนอร์
โทร : 099-624-4539 (ถิรวรรธน์) Line : thirawat_168 E-mail : t168_container@hotmail.com